ชุดเกียร์ทดรอบ มีข้อดีและข้อเสียของเฟืองแต่ละประเภทอย่างไร 

หากจะกล่าวถึง ชุดเกียร์ทดรอบ จะเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สามารถส่งกำลังได้อย่างจำกัดซึ่งเหมาะกับการใช้ในงานที่มีลักษณะต่างกัน แต่ละประเภทของเกียร์นั้นมีความสามารถในการทำงานไม่เหมือนกัน ก่อนตัดสินใจซื้อจึงควรศึกษาให้ดีว่า ชุดเกียร์ทดรอบ แต่ละประเภทเป็นอย่างไร แล้วเฟืองของเกียร์มีข้อดีและข้อเสียอย่างไรบ้าง ซึ่งจะมาอธิบายเพิ่มเติมในบทความให้ทุกคนได้รู้จักมากขึ้น 

รู้จักกับ ชุดเกียร์ทดรอบ  

ชุดเกียร์ทดรอบ สามารถเรียกได้อีกชื่อหนึ่งคือ Worm Gear หรือ Gear reducer มีหน้าที่ในการส่งกำลังแบบปิดอิสระ นำมาใช้เพื่อลดความเร็ว แล้วเพิ่มแรงบิดในการสนองความต้องการต่อการทำงานมอเตอร์ เพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้ช้าลงหรือเร็วขึ้น มีกำลังในการส่งสูง โครงสร้างเกียร์จะถูกออกแบบตามหลักโมดูลาร์ ทำให้บำรุงรักษาและใช้งานได้ง่าย มีระยะการใช้งานที่นาน ส่วนมากแล้วจะใช้กับเครื่องจักรโดยทั่วไป ยกตัวอย่างคือ การลากหรือยกสิ่งของที่น้ำหนักมาก, สายพานลำเลียง, เครื่องจักรที่ใช้ทางการเกษตร, ถังผสม อัตราทดรอบของ ชุดเกียร์ทดรอบ จะอยู่ที่ 1/10, 1/20, 1/30, 1/40, 1/50 

ประเภทฟันเฟืองของ ชุดเกียร์ทดรอบ พร้อมข้อดีและข้อเสีย 

สำหรับประเภทฟันเฟืองที่อยู่ใน ชุดเกียร์ทดรอบ นั้นสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ได้แก่  

• เฟืองตรง เป็นอุปกรณ์ที่มีระยะสั้นในการส่งกำลัง แต่มีความปลอดภัยและมีความคงทนแข็งแรงที่สูง 

• ข้อดี คือ สูญเสียพลังงานที่น้อยซึ่งมาจากการเลื่อนไถล, สามารถประกอบได้ง่ายและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีซี่ฟันตรงที่ง่ายต่อการจัดแนววาง 
• ข้อเสีย คือ ความแข็งแรงมีน้อยกว่าเมื่อเทียบกับเฟืองประเภทอื่น, ใช้ความเร็วสูงจึงทำให้เกิดเสียงดัง และจำเป็นต้องใช้งานแบบเดียวก็คือแบบคู่ขนาน 
• เฟืองเฉียง เป็นเฟืองที่ซี่ฟันจะมีการทำมุมแนวทแยง ส่งผลให้ทำงานได้อย่างราบรื่นและมีเสียงรบกวนที่เบากว่าเมื่อเทียบกับเฟืองตรงเพราะมีการขบของซี่ฟันทีละเล็กน้อย ไม่เพียงเท่านั้นยังติดต่อได้ทั้งแบบตั้งฉากและแบบขนาน 
• ข้อดี คือ ติดตั้งได้ทั้งสองแบบไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งฉากหรือแบบขนาน ทำงานได้อย่างราบรื่นปราศจากเสียงรบกวน 
• ข้อเสีย คือ เสียพลังงานมากเพราะเกิดการเลื่อนไถลและมีประสิทธิภาพที่ต่ำกว่าหากเทียบกับเฟืองตรง 

จะเห็นได้ว่า ชุดเกียร์ทดรอบ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลายตามประเภทของเฟืองในเกียร์ ซึ่งแต่ละประเภทเฟืองก็จะมีคุณสมบัติและการทำงานไม่เหมือนกัน อยู่ที่ว่าผู้ใช้งานจะนำมาใช้กับการทำงานรูปแบบใดเพื่อประสิทธิภาพและความสะดวกต่อการทำงานสูงสุด